บทเรียนที่ 17 ของน้องเฟิร์น … ทำไมคนถึงใจร้ายกับหนู คุณพ่อช่วยหนูด้วยค่ะ หนูเสียใจ

บทเรียนที่ 17 ของน้องเฟิร์น … ทำไมคนถึงใจร้ายกับหนู คุณพ่อช่วยหนูด้วยค่ะ หนูเสียใจ

บทเรียนที่ 17

หลังจากที่หนูเดินทางไปไหนมาไหนได้เองโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าบีทีเอส และ ต่อรถเมล์สายประจำ ไปทำงานได้เอง หลายๆครั้งที่หนูได้ประสบการณ์ที่ดีจากผู้คนในสังคมร่วมทางที่เข้าใจ เอื้อเฟื้อ เห็นใจ เช่น พี่พนักงานทุกคนที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีใกล้บ้าน และ ที่สถานีปลายทาง ที่น่ารักมากๆ นอกจากนั้นก็ยังมีผู้โดยสารร่วมทางโดยส่วนใหญ่ และ กระเป๋ารถเมล์สายประจำ ที่น่ารัก เข้าใจหนู เช่นกัน

… โลกเรานี้ก็มีคนหลากหลายแบบปนๆไป

บางวันหนูก็ได้ประสบการณ์แย่ๆจากพนักงานบีทีเอส(บางคนที่บางสถานี) หรือ ผู้โดยสายร่วมทางในรถเมล์บางคัน รถไฟฟ้าบางขบวน

หนูกลับมาร้องไห้ระบายกับพ่อในบางค่ำคืน …

“หนูเสียใจ ทำไมคนนั้นทำแบบนี้กับหนู เขาไม่รู้หรือว่าหนูหยุดตัวเองไม่ได้ หนูไม่สบายนี่ค่ะ หนูก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือนร้อน ก็แค่ขยับขานิดๆหน่อยๆ บางทีหนูก็พึมพำร้องเพลง บางทีหนูก็พงกหัวนิดๆหน่อยๆ หนูพยายามแล้วนะค่ะคุณพ่อ … ฯลฯ” *

“… ทำไมคนพวกนี้ถึงใจร้ายกับหนู คุณพ่อช่วยหนูด้วยค่ะ หนูเสียใจ …”

พ่อฟังไปก็สงสารหนูอยู่ในอก กล้ำกลืนน้ำตาเอาไว้ ทำได้ก็เพียงบอกให้หนูเข้มแข็ง ให้กำลังใจและ ปลอบหนูไปตามเรื่องตามราว**

(**ขอแทรกฝากเพื่อนๆพี่น้องคุณพ่อคุณแม่ตรงนี้ครับ อยากฝากว่า ถ้าพบเพื่อนร่วมทาง เพื่อนร่วมสังคม ที่บกพร่องทางสติปัญญา พวกเขาก็มีความรู้สึก เหมือนพวกเรา พวกเขารับรู้ได้ ถึงการดูถูก การโดนรังแกทางสายตา คำพูด และ ท่าทาง พวกเขาเกิดมาใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมากพอแล้วครับ อย่าเผลอทำร้ายจิตใจพวกเขาด้วยสายตา ท่าทาง หรือ คำพูดอีกเลย พวกเขาไม่ได้ต้องการการปฏิบัติ การเอาอกเอาใจเป็นพิเศษ แค่ปฏิบัติกับเขาเหมือนคนทั่วๆไปเท่านั้นก็พอครับ …)

พ่อคิดมาตลอดว่าจะสอนหนูอย่างไรในเรื่องนี้ …

พ่อไม่ใช่นักจิตวิทยา พ่อไม่ใช่จิตแพทย์ พ่อก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่รักหนูมาก …

ก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่หนูเรียกว่า “พ่อ” … ก็เท่านั้น

วันหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พ่อคิดอะไรขึ้นมาได้ … พ่อชวนหนูเล่นเกมส์ ใครชนะได้น้ำผลไม้กล่องนึง (ต้องมีของชอบจูงใจนิดหน่อย) พ่อให้เงินหนูใส่กระเป๋าเอาไว้ 20 บาท แล้วพ่อชวนหนูเดินรอบหมู่บ้านเล็กๆของเรา

รอบแรก … พ่อทำหน้าเฉยๆ แล้วให้หนูนับคนที่ยิ้มให้พ่อว่ามีกี่คน

รอบที่สอง … พ่อสบตาคนที่เดินสวนมา แล้วยิ้ม แล้วให้หนูนับคนที่ยิ้มให้พ่อว่ามีกี่คน

แล้วเราผลัดกัน …

รอบที่สาม … หนูทำหน้าเฉยๆบ้าง แล้วพ่อเป็นคนนับคนที่ยิ้มให้หนูว่ามีกี่คน

รอบที่สี่ … หนูสบตาคนที่เดินสวนมา แล้วยิ้ม แล้วพ่อเป็นคนนับว่ามีคนยิ้มให้หนูกี่คน

ใครได้ยิ้มจากคนที่สวนมามากกว่ากันคนนั้นชนะ … แน่นอนว่า รอบที่พ่อกับหนูทำหน้าเฉยๆ ไม่มีใครยิ้มให้เราสองคนพ่อลูกเลย

… แต่เมื่อพ่อยิ้มให้ก่อน มีคนยิ้มให้พ่อ 8 คน จาก 10 คนที่เดินสวนกับพ่อ

… ส่วนหนู เมื่อหนูยิ้มให้ หนูได้รอยยิ้มกลับมาถึง 10 คน จาก 10 คนที่เดินสวนกับหนู

หลังจากซื้อน้ำผลไม้ให้หนูตามสัญญาแล้ว เรากลับมาบ้าน …  พ่อถามหนูว่า หนูคิดอย่างไรกับเกมส์เมื่อสักครู่

“ก็หนูชนะไง หนูน่ารักกว่าคุณพ่อไงค่ะ” …

“แล้วไงอีก …”

หนูนิ่งไปพักนึง …

“ถ้าหนูไม่ยิ้มให้ก่อน เขาก็ไม่ยิ้มให้หนูค่ะ”

… นั่นแหละลูกรัก พ่ออยากให้หนูรู้เท่านี้แหละ จำไว้นะลูก

  1. วิธีที่โลกมองเรา ขึ้นอยู่กับวิธีที่เรามองโลก
  2. เราไม่สามารถเปลี่ยนวิธีที่โลกมองเราได้ ถ้าเราไม่เปลี่ยนวิธีที่เรามองโลก
  3. ถ้าเรายิ้มให้โลก โลกจะยิ้มให้เรา

พ่อสอนหนูไปอย่างนั้น ไม่รู้ว่าหนูจะเข้าใจไหม แต่เบื้องต้น หนูก็ได้คำตอบง่ายๆแล้วว่า “ถ้าหนูไม่ยิ้มให้ก่อน เขาก็ไม่ยิ้มให้หนู” … พ่อคิดว่าในตอนนี้แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

ก่อนให้หนูไปนอน พ่อถามหนูว่าเงิน 20 บาท ที่ให้ไว้ก่อนเล่นเกมส์ยังอยู่ไหม เอามาคืนคุณพ่อด้วย …

“ยังอยู่ครบค่ะ …”

“งั้นหนูลองคิดดีๆอีกทีซิว่า ที่เงินหนูอยู่ครบนี่หนูคิดอะไรได้อีกจากเกมส์ตะกี้ …”

“ไม่ต้องใช้เงินคนก็ให้ยิ้มค่ะ …”

“อืม … เก่งมากลูก … ไปนอนได้แล้ว …”

พ่อคงทำได้เท่านี้แหละลูกรัก …

ฝึกหนู หัดหนู สอนหนู และ …

บันทึกเอาไว้ให้หนูได้อ่าน … ในวันที่โลกไม่ยิ้มให้หนู

บันทึกเอาไว้ให้หนูได้อ่าน … ในวันที่หนูไม่มีพ่ออีกต่อไป …

 

พ่อหวังว่า … หนูจะยิ้มสวยๆให้โลกใบนี้ตลอดไปนะลูก …

 

ด้วยรัก หวัง เชื่อมั่น และ ศรัทธา ..

พ่อ …

บันทึกไว้เมื่อ 2 ส.ค. 2561

“… Though hope is frail … Its hard to kill …”
When you believe … (Prince of Egypt)

… บทเรียน 2 – 16 ของน้องเฟิร์น

*เธอเหมาหมดครับ OCC(ย้ำคิดย้ำทำ) Schizophrenia และ ADHD ถ้าเป็นข้าวราดแกงก็ต้องเรียกว่า ผมได้แบบจานพิเศษสุดๆใส่ไข่เบิ้ลสามฟองเลย 555 🙂

บทเรียนที่ 17

Scroll to Top